เปิ้ล นาคร ไลฟ์ชี้แจงป่วยหูดับเฉียบพลัน โอกาสหาย 50%

เปิ้ล นาคร ไลฟ์ชี้แจงป่วยหูดับเฉียบพลัน โอกาสหาย 50%

หลังจากที่ดาราใจบุญ เปิ้ล นาครได้ประกาศลงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ขอพักงานทุกอย่างกะทันหัน เพราะเกิดอาการหูดับเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ และแพทย์แจ้งว่าหากไม่หายภายใน 7 วัน ตนอาจต้องเสี่ยงหูไม่ได้ยินไปตลอดชีวิตล่าสุดเปิ้ลก็ได้ออกมาไลฟ์สด และพูดถึงอาการป่วยว่า 

หมอบอกให้งดใช้โทรศัพท์ระยะนึง หูที่ใช้ได้อยู่ก็ต้องเซฟให้ได้มากที่สุด เราไปตรวจมาแล้วทั้ง 2 ข้าง หมอบอกว่าเป็นอาการหูดับเฉียบพลัน มีเส้นประสาทอักเสบด้วย อาการนี้เกิดขึ้นหลายสาเหตุ ขอเล่าให้คนที่ไม่รู้จักโรคนี้มาก่อน ตอนนี้ก็ต้องลางานไปเลย 7 วัน

ตอนไปช่วยน้ำท่วมที่อุบลฯ พอเรากลับมาแล้วจู่ๆ ก็เป็นไข้ ไปหาหมอ หมอตรวจเลือด ปรากฎว่าติดเชื้อไวรัส ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำท่วมนะ แต่ย้อนกลับมาดู เราเตรียมตัวกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น อยู่กลางแดดทั้งวัน ไม่ได้พักผ่อน ตอนนั้นก็แอดมิดที่โรงพยาบาล เพราะติดเชื้อไวรัสในกระแสเลือด พอหายปุ๊บก็บินไปทำงานที่เกาหลีต่ออีก  1 อาทิตย์

พอออกจากโรงพยาบาลแล้วไปต่างประเทศเลย พอกลับมาพักได้ 2 วัน ก็บินต่อไปที่ อูกันดา บิน 10 กว่าชั่วโมง ไปถึงก็รู้สึกว่าจะหายแล้วทำไมยังเพลียอีก กลับมาถึงบ้านก็พาลูกไปขี่เจ็ตสกี ออกกำลังกายปกติ หลังจากนั้นก็ปวดเมื่อยร่างกาย เพลียๆ  แล้วก็ไปออกกำลังกายแบบไม่หนักมาก ไปตรวจร่างกาย วันที่ไปตรวจ ก็รู้สึกหูอื้อ หมอสรุปว่าร่างกายเราค่อนข้างสมบูรณ์ แต่เรารู้สึกว่าหูอื้อ พอโทรหาภรรยา ก็ไม่ได้ยินเสียงปลายสาย พอเปลี่ยนข้าง ก็ได้ยิน เลยรู้ว่าอีกข้างหูดับ ตรวจร่างกายเสร็จก็ต้องรีบไปงานต่อ แล้วกลับมาตรวจอีกครั้ง ปรากฎว่าหมอบอก ผมหูดับเฉียบพลัน

หมอบอกว่าโชคดีมากที่มารักษาเร็ว ถ้ารักษา 7 วันก็อาจจะหาย แต่ถ้านานกว่านั้น หูผมก็จะกลายเป็นคนที่ไม่ได้ยินไปตลอดชีวิต ตอนนี้ก็กินยา ห้ามทำอะไรทั้งสิ้น ต้องนอนอยู่กับบ้านเหมือนคนป่วย หมอบอกว่ามีโอกาสหาย 50 : 50 โรคนี้ไม่มีสาเหตุ เราก็เลยคิดว่าเราติดเชื้อไวรัสในเลือดอยู่แล้ว ทำงานไม่หยุด ไม่ได้พักผ่อน ก็ต้องลุ้นกันว่า 7 วัน จะหายไหม วันนี้เป็นวันแรกที่กินยา ถ้า 7 วันหาย ก็คงได้ยินเสียงหัวเราะของลูกๆ ได้ยินเสียงเชียร์ในสนาม ได้ยินเสียงของคนมีความสุขในสิ่งที่เปิ้ลได้ทำ

ต่อ ธนภพไม่แคร์ดราม่า ไม่เหมาะกับแอฟ ทักษอร

หลังจากที่มีภาพฟิตติ้งละครเรื่อง ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ ออกมาให้ชมกันไปแล้ว ซึ่งนำแสดงโดย ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร และ แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าต่อ ไม่เหมาะสมกับแอฟเลย งานนี้หนุ่มต่อก็ได้ออกมาพูดถึงกระแสดราม่าดังกล่าวด้วย

ต่อบอกว่าเป็นเรื่องปกติ สุดท้ายผมก็ตอบไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะว่ายังไม่ได้เริ่ม แต่ผมยอมรับได้หมด เพราะว่ายังไม่ได้ทำ ก็เลยไม่มีอะไรไปสู้กับใคร ว่ามันจะเป็นยังไง แต่ก็ค่อนข้างเชื่อว่า เราเต็มที่จริงๆ การที่เราคิดว่าเราเลือกที่จะทำ แล้วผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแค่ตัวเราด้วย ทุกคนที่ทำโปรเจ็กต์นี้ เรามีความคิดแล้วว่าเราอยากทำจริงๆ

สียเซลฟ์ไหม ทั้งที่ยังไม่เริ่มแต่กระแสออกมาลบแล้ว ไม่เลยผมเชื่อว่าผมเคยโดนลบกว่านี้ เป็นเรื่องปกติ เราเป็นคนคนหนึ่ง ไม่สามารถมีแต่กระแสบวกได้หรอก เหมือนที่ผมพูดอยู่เสมอ มีคนรักเราเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้รักเราไม่ใช่แปลว่าไม่มี เป็นสัจธรรม

แสดงว่าที่เขาว่ากันว่าไม่เหมาะสม นี่อาจจะไม่เกี่ยว? ผมว่าตอนนี้ใครพูดอะไรก็พูดได้ สุดท้ายรอดูตอนเราทำจริงๆ ดีกว่า ถ้าคุณไม่มีทิฐิกับเรา คุณจะเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำแค่ความต่างวัย มันมีสิ่งที่เราอยากเล่า ไม่อย่างนั้นผมจะไม่บอกเลยว่าผมอยากทำ ผมไม่ได้เป็นคนทำอะไรชั้นเดียว มันมีสิ่งที่อยากจะเล่าให้สังคมรู้ว่า เราต้องการอะไรบางอย่าง

จะเริ่มฉากแรกกันเมื่อไหร่ ถ้าไม่มีการเลื่อน น่าจะกลางเดือนหน้านี้นะ ตอนนี้ก็เตรียมตัว ผมยังขจัดความตื่นเต้นกับพี่แอฟไม่ได้เลย ทุกวันนี้ยังรู้สึกตื่นเต้น เพราะว่าไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน เพิ่งเคยเจอกันด้วย พี่แอฟน่ารักมากจริงๆ มีจุดที่ผมกับพี่เขาซิงค์กันหลายอย่างโดยบังเอิญเช่น เราเคยไปงานเลี้ยงของอาจารย์ท่านหนึ่ง แล้วเราเป็นลูกศิษย์ท่านทั้ง 2 คน และผมก็ชอบน้องปีใหม่มากอยู่แล้ว พี่แอฟน่ารักมาก พยายามเป็นกันเองกับผม ไม่ให้ผมตื่นเต้น น่าจะต้องให้พี่เขาสอนเราอีกเยอะเรายังไม่ได้เก่งขนาดนั้น

ถามถึงซีรีส์ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ที่ไปคว้ารางวัลในงาน 1st Asia Contents Awards 2019 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ หลายคนสงสัย เพราะซีรีส์เรื่องนี้ได้ออนแอร์ทางช่องโทรทัศน์นานแล้ว

คือเป็นธีมของงาน และปีนี้เป็นปีแรกที่จัด ธีมคือย้อนรอย 5 ปีที่ผ่านมามีอะไรบ้าง เขาเก็บมาทั้งหมดเลย งานนี้เราก็ไปเป็นตัวแทน มีนักแสดงที่ไป 3 คน มีผม ฝน (ศนันธฉัตร) เบลล์ (เขมิศรา) และพี่ปิง(เกรียงไกร) ผู้กำกับ จริงๆ ตอนแรกเราไม่รู้ว่าได้ แต่ได้ไปงานก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว เพราะเป็นงานที่ค่อนข้างอินเตอร์เนชั่นแนล ตอนที่ได้ผมก็ภูมิใจมาก แล้วพี่ปิงก็ให้เกียรติผมขึ้นไปรับรางวัลเป็นเพื่อน ก็ดีใจแทนทุกคน ทุกคนที่ทำฮอร์โมนเหนื่อยจริงๆ แล้วต้องทุ่มเท เสียสละค่อนข้างเยอะ กับหลายๆ สิ่งตอนที่เราถ่าย

เป็นอีกรางวัลที่แสดงความสำเร็จอีกอย่างหนึ่ง ไม่เลย สิ่งนี้เป็นรางวัลที่ตอบโจทย์ดีที่สุดว่า มันคือของทุกๆ คน มันไม่ใช่การที่ผมขึ้นไปรับแล้วมันเป็นของผม ไม่ใช่แค่นักแสดงด้วย มันคือทีมงานทุกคน ซีรีส์เรื่องนี้ได้ 2 รางวัล ตอนขึ้นเวทีก็ตื่นเต้น เพราะเราไม่ได้เตรียมตัวไปรับรางวัล

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป