เจ้าบ่าวทหารเทงานแต่ง ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ไม่เข้าพิธีวิวาห์ เป็นเพราะหาสินสอดไม่ได้ ด้านกองทัพบก เผย ไม่พบทหารชื่อนี้ในฐานระบบ จากกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรีออกมาร้องทุกข์กับสื่อว่าเธอถูกเจ้าบ่าวที่อ้างว่าว่าเป็นทหาร ยศจ่าสิบเอก เทงานแต่งงาน และทำให้เธอต้องเข้าพิธีวิวาห์เพียงลำพัง ติดต่อไม่ได้ แถมยังทำให้เธอและครอบครัวตกเป็นหนี้สินหลายแสนบาทนั้น
ล่าสุดเจ้าบ่าวได้ยอมรับสายและพูดคุยกับทางเจ้าสาวแล้ว
โดยระบุว่าที่หนีหายไป เพราะยังหาสินสอดไม่ได้ ทำให้รู้สึกอับอายไม่กล้าสู้หน้าและเลือกที่จะหนีไปตั้งหลักที่บ้านเกิดใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
โดยสินสอดที่ตกลงกันไว้คือ เงินจำนวน 200,000 บาทและทองหนัก 3 บาท
ซึ่งฝั่งเจ้าบ่าวระบุว่า ในวันที่ 11 พ.ค.ที่จะถึงนี้จะนำผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็น นายก อบต. ที่บ้านเกิดเข้ามาเจรจาและแม้ฝ่ายเจ้าสาวจะสอบถามว่า ยังรักกันอยู่หรือไม่ก็ได้รับการยืนยันว่ายังรักเจ้าสาวอยู่เสมอและจะเข้ามาเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างแน่นอนและยังยืนยันว่าตนเองยังไม่มีครอบครัวตามที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอออกไป จึงอยากขอโอกาสจากเจ้าสาวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีว่าที่เจ้าบ่าว หนีงานแต่งงาน ที่กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยฝ่ายว่าที่เจ้าสาวระบุว่า ฝ่ายชายอ้างว่าเป็น “ทหาร” ยศจ่าสิบเอก ชื่อ สุวรรณหงส์ หรือ เอก ไม่ทราบนามสกุล นั้น จากการประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และได้ตรวจสอบรายชื่อแล้ว ไม่ปรากฏ ภาพ หรือชื่อดังกล่าวในระบบฐานข้อมูลกำลังพล ของกองทัพบก
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศเตือนภัยถึงการใช้งานบัญชี Line ปลอม แอบอ้างเป็นแผนกบัญชีของธนาคารเพื่อทำการหลอกลวงเงินจากประชาชน
ธอส., Line ปลอม – (6 พ.ค. 2565) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขอแจ้งเตือนภัย กรณีมีมิจฉาชีพสร้าง LINE โดยใช้รูปภาพของนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นรูปภาพ Profile และใช้ชื่อ Account ว่า “ฝ่ายบัญชี” แอบอ้างเป็นบริษัทผู้ให้บริการเงินกู้ เพื่อหลอกลวงเงินจากประชาชน โดยหลอกลวงให้โอนเงินค่าชำระภาษีนำจ่ายก่อนได้รับวงเงินกู้
ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ขอยืนยันว่า ธนาคารและกรรมการผู้จัดการ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Line และการให้บริการทางการเงินดังกล่าว รวมถึง Line อื่น ๆ ที่อาจใช้รูปภาพและกระทำในลักษณะเดียวกัน เพื่อหลอกลวงเอาเงินจากประชาชน ซึ่ง ธอส.อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างแล้ว และธนาคารขอเตือนให้ผู้ที่ได้รับข้อความลักษณะนี้ อย่าหลงเชื่อกลโกงของมิจฉาชีพหรือโอนเงินให้อย่างเด็ดขาด
ตำรวจ ยัน ครูกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เป็นปัญหาเรื่องหนี้สิน ไม่ใช่เรื่องยอด
เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมายืนยันว่าเหตุ ครูกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ที่เป็นที่พูดถึงในขณะนี้นั้น เป็นปัญหาเรื่องหนี้สินจริง ไม่ใช่เรื่องหานักเรียนไม่ถึงเป้าตามที่กล่าวอ้าง พ.ต.อ.พิทูรย์ พัฒนชัย ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ออกมากล่าวถึงกรณีที่ครูวัย 53 ปี กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้นเป็นเพราะ ถูกทางโรงเรียนกดดันและต่อว่าจากทางโรงเรียน จนทำให้เกิดความอับอาย หลังจากที่ครูคนดังกล่าวไม่สามารถหายอดนักเรียนใหม่ได้ถึงเป้า
ซึ่งทาง พ.ต.อ.พิทูรย์ ยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตายจากปัญหาหนี้สิน เนื่องจากทางพนักงานสอบสวนได้พบว่ามีการเขียนจดหมายลาทิ้งไว้ ก่อนคิดสั้นกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ซึ่งมีข้อความในเชิงตัดพ้อต่อว่า ที่ให้ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ผู้ตายทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน แต่พอเกิดปัญหาขึ้นมากลับไม่มีใครเข้ามาให้การช่วยเหลือ ขณะที่จดหมายดังกล่าวในทางสอบสวนนั้นไม่สะดวกที่จะให้นำออกมาเผยแพร่ได้ แต่อาจให้พนักงานสอบสวนอ่านให้ฟังได้
ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นปัญหาภายใน ที่ทางโรงเรียนเขารับทราบอยู่แล้ว พร้อมแนะให้ ไปสอบถามจากทางครูอาจารย์ที่โรงเรียนแห่งนี้จึงน่าจะดีกว่า ซึ่งเขาน่าจะให้ความร่วมมือ เนื่องจากเป็นกรณีที่มีการแชร์กันมาทางสื่อโซเชียล ว่าถูกบีบหรือบังคับให้หาเด็กเข้าไปเรียนอะไรในทำนองนั้น และเป็นการเสียชื่อเสียงต่อทางสถานศึกษาเอง ทางสถานศึกษาจึงน่าจะให้ความร่วมมือในการที่จะชี้แจงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
พ.ต.อ.พิทูรย์ กล่าวอีกว่า “ส่วนการดำเนินคดีนั้น เนื่องจากเป็นกรณีของการฆ่าตัวตายเอง ไม่ใช่คดีที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม ทางพนักงานสอบสวนจึงทำสำนวนชันสูตรไปตามกฎหมาย โดยที่ไม่ได้มีข้อกล่าวหา หรือดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้ใด”
เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุเป็น เวลากลางคืน บริษัทฯ จะทําการสํารวจบริเวณที่เกิดเหตุในเช้าวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป บริษัทฯ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์ บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว (EIC), ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์ อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ศร ชล ภาค 1 และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ซึ่งประกอบด้วยกําลังพล เรือ และน้ํายาขจัดคราบน้ํามัน เพื่อใช้ในการ ขจัดคราบน้ำมัน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป